ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ
(Theory of
Cooperative or Collaborative Learning)
สยุมพร จุ๋ม ศรีมุงคุณ.(2555). ได้กล่าวถึงทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือไว้ดังนี้
แนวคิดขอทฤษฏีนี้
คือ
การเรียนรู้เป็นกลุ่มย่อยโดยสมาชิกกลุ่มที่มีความสามารถแตกต่างกันประมาณ
3–6 คน ช่วยกันเรียนรู้เพื่อไปสู่เป้าหมายของกลุ่ม โดยผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในลักษณะแข่งขันกัน ต่างคนต่างเรียนและร่วมมือกันหรือช่วยกันในการเรียนรู้ การจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้จะเน้นให้ผู้เรียนช่วยกันในการเรียนรู้
โดยมีกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนมีการพึ่งพาอาศัยกันในการเรียนรู้ มีการปรึกษาหารือกันอย่างใกล้ชิด มีการสัมพันธ์กัน มีการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม มีการวิเคราะห์กระบวนการของกลุ่มและมีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบงานร่วมกัน
ส่วนการประเมินผลการเรียนรู้ควรมีการประเมินทั้งทางด้านปริมาณและคุณภาพ
โดยวิธีการที่หลากหลายและควรให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการประเมินและครูควรจัดให้ผู้เรียนมีเวลาในการวิเคราะห์การทำงานกลุ่มและพฤติกรรมของสมาชิกกลุ่ม เพื่อให้กลุ่มมีโอกาสที่จะปรับปรุงส่วนบกพร่องของกลุ่มเดียว
เลิศชาย ปานมุข.
(2558). ได้กล่าวถึงทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือไว้ดังนี้
การเรียนรู้เป็นกลุ่มย่อยโดยมีสมาชิกกลุ่มที่มีความสามารถแตกต่างกันประมาณ 3-6 คน ช่วยกันเรียนรู้เพื่อไปสู่เป้าหมายของกลุ่ม โดยผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในลักษณะแข่งขันกัน
ต่างคนต่างเรียนและร่วมมือกันหรือช่วยกันในการเรียนรู้
บริหารการศึกษา
กลุ่มดอนทอง.
(2553). ได้กล่าวถึงทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือไว้ดังนี้ เป็นการเรียนรู้เป็นกลุ่มย่อย
โดยมีสมาชิกกลุ่มที่มีความสามารถแตกต่างกัน ช่วยกันเรียนรู้
เพื่อนำไปสู่เป้าหมายของกลุ่ม นักศึกษาคนสำคัญ ได้แก่ สลาวิน เดวิดจอห์นสัน
และรอเจอร์ จอห์สัน
1. องค์ประกอบของการเรียนรู้แบบร่วมมือ
1) การพึ่งพาและเกื้อกูลกัน
2) การปรึกษาหารือกันอย่างใกล้ชิด
3) ความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้ของสมาชิกแต่ละคน
4) การใช้ทักษะการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและทักษะการทำงานกลุ่มย่อย
5)
การวิเคราะห์กระบวนการกลุ่ม
2. ผลของการเรียนรู้แบบร่วมมือ
1) มีความพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายมากขึ้น
2) มีความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนดีขึ้น
3) มุขภาพจิตดีขึ้น
3. ประเภทของกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ
1) กลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมืออย่างเป็นทางการ
2) กลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือย่างไม่เป็นทางการ
3) กลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมืออย่างถาวร
จากการที่กล่าวมาข้างต้นสามารถสรุปได้ว่า เป็นการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้กันเป็นกลุ่มประมาณ
3-6
คนโดยที่ผู้เรียนมีความสามารถแตกต่างกัน ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในลักษณะแข่งขันกัน
ต่างคนต่างเรียนและร่วมมือกันหรือช่วยกันในการเรียนรู้ การจัดการเรียนการสอนจะเน้นให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมหรือทำงานเป็นกลุ่ม
เพื่อให้ผู้เรียนได้รู้จักการพึ่งพาและเกื้อกูลกัน การปรึกษาหารือกันอย่างใกล้ชิด ความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้ของสมาชิกแต่ละคน
การใช้ทักษะการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและทักษะการทำงานกลุ่มย่อยการวิเคราะห์กระบวนการกลุ่ม
ที่มา
บริหารการศึกษา กลุ่มดอนทอง. (2553). http://dontong52.blogspot.com. [ออนไลน์]. เข้าถึงวันที่ 5 กรกฎาคม
พ.ศ. 2561.
เลิศชาย ปานมุข. (2558).
http://www.lertchaimaster.com/forum/index.php?topic=36. [ออนไลน์].
เข้าถึงวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2561.
สยุมพร จุ๋ม ศรีมุงคุณ.
(2555). https://www.gotoknow.org/posts/341272.
[ออนไลน์]. เข้าถึงวันที่ 30 มิถุนายน
พ.ศ. 2561.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น