ทฤษฎีการเรียรู้ของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ
(Natural
Unfoldment)
สุริน
ชุมสาย ณ อยุธยา. (2553). ได้กล่าวถึงทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติไว้ดังนี้นักคิดคนสำคัญในกลุ่มนี้คือรุสโซ (Rousseau) ฟรอเบล (Froebel) และเพสตาลอสซี (Pestalozzi)
มีความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้ดังนี้
1. มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความดีและการกระทำใดๆเกิดขึ้นจากแรงกระตุ้นภายในตัวมนุษย์เอง
2. ธรรมชาติของมนุษย์มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเอง
หากได้รับเสรีภาพ ในการเรียนรู้มนุษย์สามารถพัมนาตนเองไปตามธรรมชาติ
3. รุสโซมีความเชื่อว่าเด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ
เด็กมีสภาวะของเด็กซึ่งแตกต่างไปจากวัยอื่น
การจัดการศึกษาให้เด็กจึงควรพิจารณาระดับอายุเป็นหลัก
4. รุสโซเชื่อว่าธรรมชาติเป็นแหล่งความรู้สำคัญ เด็กควรจะได้เรียนรู้ไปตามธรรมชาติ
การเรียนรู้จากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ จากผลของการกระทำของตน
มิใช่การเรียนจากหนังสือหรือจากคำพูดบรรยาย
5. เพสตาลอสซีมีความเชื่อว่า คนมีธรรมชาติปนกันใน 3
ลักษณะคือ คนสัตว์ ซึ่งมีลักษณะเปิดเผยเป็นทาสของกิเลส มีลักษณะที่จะเข้ากับสังคม คล้อยตามสังคมและคนธรรม ซึ่งมีลักษณะของการรู้จักผิดชอบชั่วดี
คนจะต้องมีการพัฒนาใน 3 ลักษณะดังกล่าว
6. เพสตาลอสซีเชื่อว่าการใช้ของจริงเป็นสื่อในการสอน
จะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดี
7. ฟรอเบลเชื่อว่าควรจะให้การศึกษาชั้นอนุบาลแก่เด็กเล็กอายุ 3 – 5 ขวบ
โดยให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง
8. ฟรอเบลเชื่อว่าการเล่นเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญของเด็ก
หลักการจัดการศึกษา/การสอน
1. การจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้แก่เด็กจะต้องมีความแตกต่างไปจากการจัดให้ผู้ใหญ่
เนื่องจากเด็กมีสภาวะที่ต่างไปจากวัยอื่น ๆ
2. การจัดการศึกษาให้แก่เด็กควรยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง
ให้เสรีภาพแก่เด็กที่จะเรียนรู้ตามความต้องการและความสนใจของตน
เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้อย่างอิสระ
3.ลักษณะการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับเด็ก
คือการจัดให้เด็กได้เรียนรู้จากธรรมชาติและเป็นไปตามธรรมชาติ ได้แก่
3.1
ให้เด็กได้เล่นอย่างอิสระ
3.2 ให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง
3.3 ให้เด็กได้เรียนจากของจริงและประสบการณ์จริง
3.4 ให้เด็กได้เรียนรู้จากผลของการกระทำของตน
4. การจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้เด็กจะต้องคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและความพร้อมของเด็ก
สยุมพร จุ๋ม ศรีมุงคุณ. (2555). ได้กล่าวถึงทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติไว้ดังนี้
นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า ธรรมชาติคือแหล่งเรียนรู้สำคัญ เด็กควรจะได้เรียนรู้ไปตามธรรมชาติ การใช้ของจริงเป็นสื่อในการสอนจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดี การเล่นเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญของเด็ก เด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ เด็กมีสภาวะของเด็ก
ซึ่งแตกต่างไปจากวัยอื่น การจัดการศึกษาให้เด็กจึงควรพิจารณาระดับอายุเป็นหลัก การจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้เน้นการจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้แก่เด็กจะต้องมีความแตกต่างไปจากการจัดให้ผู้ใหญ่และยึดเด็กเป็นศูนย์กลางให้เสรีภาพแก่เด็กได้เรียนรู้ตามความต้องการและความสนใจของตน
ให้เด็กได้เรียนรู้ตามธรรมชาติและเป็นไปตามธรรมชาติ
โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและความพร้อมของเด็ก
เลิศชาย ปานมุข. (2558). ได้กล่าวถึงทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติไว้ดังนี้
นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า ธรรมชาติคือแหล่งเรียนรู้สำคัญ เด็กควรจะได้เรียนรู้ไปตามธรรมชาติ การใช้ของจริงเป็นสื่อในการสอนจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดี การจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้เน้นการจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้แก่เด็กจะต้องมีความแตกต่างไปจากการจัดให้ผู้ใหญ่และยึดเด็กเป็นศูนย์กลางให้เสรีภาพแก่เด็กได้เรียนรู้ตามความต้องการและความสนใจของตน
จากการที่กล่าวมาข้างต้นสามารถสรุปได้ว่า
มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความดีและการกระทำใดๆ
เกิดขึ้นจากแรงกระตุ้นภายในตัวมนุษย์เองและธรรมชาติของมนุษย์มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้
พัฒนาตนเอง
ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางเพื่อให้เสรีภาพในการเรียนรู้ตามต้องการและความสนใจ
จะต้องคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและความพร้อมของผู้เรียน การจัดการศึกษาจึงควรพิจารณาระดับอายุเป็นหลักและควรจะได้เรียนรู้ไปตามธรรมชาติ
ที่มา
ดร.สุริน ชุมสาย ณ อยุธยา. (2553). https://surinx.blogspot.com/.
[ออนไลน์]. เข้าถึงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561.
เลิศชาย ปานมุข. (2558).
http://www.lertchaimaster.com/forum/index.php?topic=36. [ออนไลน์].
เข้าถึงวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2561.
สยุมพร จุ๋ม ศรีมุงคุณ. (2555). https://www.gotoknow.org/posts/341272.
[ออนไลน์]. เข้าถึงวันที่ 30 มิถุนายน
พ.ศ. 2561.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น